ทริปเล็กๆหลบร้อนแลใต้ วันฟ้าใสทะเลสวย - ถ้ำมรกต
ดัชนีบทความ |
---|
ทริปเล็กๆหลบร้อนแลใต้ วันฟ้าใสทะเลสวย |
เกาะมุก |
ทุกหน้า |
นั่งเรือประมาณ 50 นาทีถึงถ้ำมรกต เกาะมุก อำเภอกันตัง จ.ตรัง วันนี้พยากรณ์อากาศว่ามีฝนตก แต่มีแดดทั้งวันถ้ำมรกตสวยมากนี่ขนาดปลายฤดูท่องเที่ยว (เราเคยดูแต่ในรายการทีวี หรือในยูทูป) ทีนี่ยังมีมนต์เสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวอยู่ เกาะมุกนับเป็นจุดเด่นที่สุดในทะเลตรัง ลักษณะของเกาะทางด้านทิศตะวันตกส่วนใหญ่เป็นโขดหน้าผาหินสูงตระหง่านหันหน้า ออกสู่ทะเล ทางฝั่งตะวันออกเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง ที่ยังคงวิถีชีวิตของชาวเกาะไว้อย่างดีสามารถเดินเที่ยวรอบเกาะได้ และไม่ห่างจากเกาะมุกมีถ้ำมรกตหรือถ้ำทะเลซึ่งมีความงดงามตระการตาอย่างมาก จากปากทางเข้าถ้ำเป็นโพรงเล็กๆ สูงพ้นระดับน้ำพอเรือลอดได้ หรือต้องว่ายน้ำเข้าไปถ้าหากน้ำมาก ระยะทาง 80 เมตร บริเวณปากทางเข้าถ้ำแสงจากภายนอกจะสะท้อนกับน้ำภายในถ้ำทำให้เห็นน้ำเป็นสี เขียวมรกต ดูแปลกตาและมหัศจรรย์ในความสวยงามที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้าง เมื่อพ้นปากถ้ำออกมาอีกด้านหนึ่งจะเห็นหาดทรายขาวสะอาดล้อมรอบด้วยหน้าผาสูง ชัน นั่งเล่นน้ำได้


นั่งเรือสักพักใหญ่ก็ถึง เกาะเชือก เป็นเกาะเล็กๆ ทั้งสามเกาะอยู่ในวงล้อมของเกาะมุก และเกาะกระดาน เป็นเกาะสัมปทานรังนกทั้งสามเกาะ ห่างจากเกาะไหงประมาณ 4 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นโขดหิน แหละหน้าผาหินสูงชัน ไม่มีชายหาด หรือบ้านเรือนของผู้คน และชาวประมงอาศัยอยู่บนเกาะทั้งสาม นอกจากมีกระท่อมของคนเฝ้ารังนกปลูกเรียงรายบนโขดหินรอบตัวเกาะ บริเวณรอบเกาะทั้งสามเป็นแหล่งดำน้ำ ชมปะการังชนิดต่างๆ มีทั้งดงปะการังน้ำตื้น และน้ำลึกรายรอบ มีฝูงปลาทะเลสีสันสวยงามนานาชนิด เช่น ปลานกแก้ว ปลาโนรี ปลาสินสมุทร ปลาลายเสือ ฯลฯ
เกาะกระดาน เป็นเกาะที่สวยเกาะหนึ่งของจังหวัดตรัง มีเนื้อที่ประมาณ600 ไร่ ซึ่ง 5 ใน 6 ส่วนของเกาะนี้ อยู่ในความรับผิดชอบของ อุทยานหาดเจ้าไหมที่เหลือเป็นสวนยางและสวนมะพร้าวของเอกชน รวมทั้งร้านอาหารและที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว
จุดเด่นของเกาะกระดานคือ ชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดเหมือนแป้ง และน้ำใสจนมองเห็นแนวปะการังซึ่งทอดยาวจากชายหาดด้านเหนือถึงชายฝั่ง และมีฝูงปลาหลากสีแหวกว่ายอย่างสวยงาม
สำหรับผู้นิยมการโต้คลื่นด้านหลังเกาะมีอ่างเล็กๆ มีคลื่นลูกโตๆ สาดม้วนเข้าหาหาดเป็นระลอกๆ เหมาะสำหรับเล่นกระดานโต้คลื่น เกาะกระดานอยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะมุกและเกาะลิบง รอบเกาะมีชายหาดอยู่ 4 แห่ง เกาะกระดานจึงเป็นเกาะที่สวยที่สุดของทะเลตรัง
ที่มีเกาะอื่นรายรอบเป็นบริวาร ชายหาดเป็นทรายขาวละเอียด น้ำใส จนมองเห็นริ้วทรายใต้พื้นน้ำ
สุดชายหาดด้านเหนือ มีแนวปะการังทอดยาวออกไปในทะเล
บริเวณชายฝั่งเป็นปะการังน้ำตื้น สถานที่จัดงานวิวาห์ใต้สมุทรที่ด้งไปทั่วโลกครับ ที่นี่มีรีสอร์ทที่พักเอกชนให้พัก ราคาอาหารตามราคาแบบเกาะๆครับ (กาแฟแก้วละ100บาท เบียร์สิงห์เล็ก 150บาท)
เกาะม้า ตั้งอยู่ระหว่างเกาะมุกและเกาะไหง เป็นเกาะเล็ก ๆ ลักษณะเป็นเขาหินปูน เป็นเกาะหนึ่งในทะเลตรัง สัญลักษณ์ที่เรียกเกาะม้านี้ก็คือ ภูเขาที่ยื่นออกมาซึ่งมีลักษณะคล้ายหน้าม้า บริเวณเกาะม้านี้เป็นที่อยู่ของสัตว์บกบางชนิด ได้แก่ค้างคาวแม่ไก่ และก็สัตว์น้ำทั่ว ๆ ไป เกาะนี้นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำดูปะการัง และชมปลาใต้น้ำปลาบริเวณนี้ได้แก่ ปลาเมโม ปลาลายเสือ ปลานกแก้ว และ จุดเด่น ที่เกาะม้าแห่งนี้ได้รับความนิยมจากบรรดานักดำน้ำเป็นอย่างมากคือ ที่นี่เป็นแหล่งปะการังเจ็ดสี กัลปังหา ดอกไม้ทะเล และ ปะการังเขากวาง ซึ่งที่เกาะม้าถือเป็นจุดดำน้ำที่สวยที่สุดของทะเลตรังจุดหนึ่ง เรือกลับเข้าท่าปากเม็งเวลา เกือบ18.00 น. วันนี้ล่องน้ำตื้นเขินผิดปกติครับ เรือติดหล่มโคลนเสียเวลาอยู่นาน ต้องเกณฑ์คนอ้วน4-5คนเหยียบหัวเรือ เรือจึงแล่นได้ เข้าที่พัก ที่เกาะลันตาใหญ่ เวลา 21.00น.โดยประมาณ
รุ่งขึ้นไปเยี่ยมชมสระมรกต ซึ่งอยู่อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ห่างจากเกาะลันตาประมาณ 30 กิโลเมตร วันนี้นักท่องเที่ยวมีจำนวนมากเพราะเป็นช่วงปิดเทอม ซื้อตั๋วเดินเท้าเข้าไปประมาณ1 กิโลเมตร ถึงสระมรกต ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ สระมรกตกำเนิด มาจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ เป็นน้ำพุร้อนลักษณะเป็นสระน้ำร้อน 3 สระได้แก่ สระแก้ว สระมรกต และ สระน้ำผุด
น้ำใสเป็นสีเขียวมรกต มีอุณหภูมิประมาณ 30-50 องศาเซลเซียส รอบๆ
บริเวณเป็นป่าร่มรื่นเขียวครึ้มมีพรรณไม้ที่น่าสนใจ
รวมทั้งนกที่หาดูได้ยากเช่น นกแต้วแร้วท้องดำ นกกระเต็นสร้อยคำสีน้ำตาล
และนกเงือกดำ โดยมีมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติทีนา โจลิฟฟ์ (ทุ่งเตียว)
ซึ่งตั้งชื่อตามคุณทีนา โจลิฟฟ์ ชาวอังกฤษ
ผู้ริเริ่มความคิดที่จะรักษาอนุรักษ์ป่าดิบชื้นผืนนี้ไว้ไม่ให้ถูกทำลาย
เพื่อเป็นการระลึกถึงความตั้งใจและเป็นอนุสรณ์สำหรับคุณทีนา
จึงตั้งชื่อเส้นทางศึกษาธรรมชาติเส้นนี้ว่า เส้นทางศึกษาธรรมชาติทีนา
โจลิฟฟ์ (ทุ่งเตียว) เส้นทางเดินศึกษานี้มีระยะทาง 2.7 กิโลเมตร
ตลอดเส้นทางจะมีป้ายสื่อความหมายที่จะคอยบอกเล่าถึงเรื่องราวต่างๆ
ในป่าให้นักเดินทางได้ศึกษาหาความรู้ได้ด้วยตนเอง
โดยมีจุดเริ่มต้นอยู่ก่อนถึงสระมรกตของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บาง
คราม ประมาณ 800 เมตร เส้นทางจะผ่านผืนป่าเล็ก ๆ
ซึ่งเป็นป่าที่ราบต่ำที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยทางภาคใต้ของประเทศไทย
เส้นทางนี้จะแสดงลักษณะของป่าดิบชื้นที่ราบต่ำอย่างแท้จริง
ภายหลังได้มีการจัดตั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางครามขึ้น บรรยากาศดีมาก (ภาพไม่ได้นำมาฝากส่วนใหญ่เป็นภาพครอบครัว )
สระน้ำผุด
มีสะพานไม้กว้างประมาณ 1 เมตร เดินประมาณ 600 เมตร ไปดูต้นกำเนิดสระมรกต เป็นบ่อน้ำที่มีความใสสะอาด ที่เป็นเช่นนี้เพราะน้ำซับเหล่านี้มาจากภูเขาหินปูน จึงทำให้น้ำมีสารละลายของแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) ทำให้สารแขวนลอยในน้ำตกตะกอนได้ง่าย และที่เห็นน้ำผุดตลอดเวลาคล้ายน้ำเดือด
อันเนื่องมาจากก้นบ่อมีรอยแยกของเปลือกโลก ซึ่งภายใต้เปลือกโลก มีของเหลวที่มีความร้อนเรียกว่าแมกมา (magma) ความร้อนจากของเหลงนี้ระเหย
มาทางรอยรั่วของเปลือกโลก ทำให้เราเห็นน้ำผุดตลอดเวลา “สระน้ำผุด” มีเรื่องเล่าว่า ในสมัยโบราณชาวบ้านมีความเชื่อว่า เป็นสระที่นางกินรีลงเล่นน้ำ สระน้ำผุดเป็นสระน้ำขนาดเล็ก มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 15-20 เมตร เกิดจากน้ำใต้ดินที่พุ่งขึ้นมาบนผิวโลก ผ่านรอยแตกของพื้นดิน(ตาน้ำ) ขึ้นมารวมกันเป็นสระน้ำ
ขนาดเล็กกลางป่า และเป็นธารน้ำลงสู่สระมรกต น้ำในสระที่เห็น
มีสีน้ำเงินคราม เพราะเป็นน้ำที่มีแร่ธาตุต่างๆ หลายชนิด เช่น แคลเซียมคาร์บอเนต, แมกนีเซียม, แมงกานีส
และ กำมะถัน เป็นต้น ทำให้เรามองเห็นน้ำในสระเป็นสีน้ำเงินคราม
ขอบคุณข้อมูลจาก ททท.
th.wikipedia.org
เจ้าหน้าทีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประบางคราม
แก้ไขล่าสุด (วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2022 เวลา 16:26 น.)